เว็บดูอนิเมะ
เว็บดูอนิเมะ ท่ามกลางกองทัพอนิเมะ อีกทั้ง กระแสหลัก กระแสรอง ที่ทั้ง เคยมอง และ ไม่เคยดู บางทีเว้นแต่ “เซ้นส์ส่วนตัว” ที่ใช้ในการเลือกสรรให้แก่ชราเองขณะที่มีจำกัดแล้ว การบอกกล่าว หรือ ได้รับการแนะนำเมะดีๆสักเรื่อง ก็ช่วยทุ่นเวลา แถมยังเพิ่มโอกาสให้พวกเราได้สัมผัสผลงานที่ตนเองอาจไม่เคยได้ทราบจักอีกด้วย เว็บดูอนิเมะ โดยเหตุนั้น สำหรับผู้ใดกันที่กำลังหาเสพ หนังอนิเมะญี่ปุ่น ที่ “น่าดู” อีกทั้งงานภาพรวมทั้งตัวรายละเอียด เราขอแนะนำผลงานประสิทธิภาพน่าจำตั้งแต่นี้ต่อไป จะมีเรื่องไหนบ้างนั้น ขอไล่เรียงไปตามลำดับปี เลยแล้วกัน เว็บดูอนิเมะ
1. Grave of the Fireflies (สุสานหิ่งห้อย) , 1988
เริ่มต้นเรื่องแรกก็ดราม่าปวดตับกันอย่างยิ่งจริงๆ สำหรับหนังอนิเมชั่นเรื่องแรกๆจากสตูดิโอจิบลิหัวข้อนี้ เกี่ยวกับเรื่องราวของสองลูกพี่ลูกน้องชายหญิงกับเรื่องโศกเศร้าที่พวกเขาจำเป็นต้องเผชิญในตอนสงครามโลก โดยความสะดุดตาของผลงานนี้ อยู่ตรง “ความดราม่า” กับการสะท้อนความเป็นจริงอันแสนร้ายกาจในการรบได้อย่างลึกซึ้งถึงทรวง แบบไม่มีคำว่า “โลกสวย” เจาะจงในพจนานุกรมของพวกเขาหมายถึงเว้นเสียแต่ดูแล้วจะก่อให้เราได้รู้สึกร่วม หรือทำให้รำลึกถึงความโชคดีที่เกิดในช่วงปัจจุบันแล้ว บางบุคคลยังอาจได้ “ความจิตตก” แถมมาด้วย เว็บดูอนิเมะ
2. Totoro (โทโทโร่ เพื่อนรัก) , 1988
ต่อมา ต่อกันที่ผลงานอีกเรื่องจากสตูดิโอจิบลิในปีเดียวกัน โดยการกำกับจาก อ.ฮายาโอะ ไม่ยาซากิ (Hayao Miyazaki) ปรมารจารย์ที่วงการอนิเมชั่นของญี่ปุ่น เป็นเรื่องราวมิตรภาพที่แสนสวยสดงดงามแล้วก็เต็มไปด้วยจินตนาการของเด็กผู้หญิงกับเพื่อนฝูงภูตผีตัวใหญ่ “โทโทโร่” โดยเว้นแต่เราจะได้อิ่มเอมไปกับเรื่องราวดีๆซึ้งๆจากการผจญภัยของเด็กสาวแล้ว งานภาพยังสวยแบบคลาสสิก แถมเรื่องแนวความคิดยังสร้างเสริมแรงบันดาลใจและความคิดริเริ่มได้ดิบได้ดีแท้อีกด้วย กระทั่งไม่ประหลาดใจเลยว่า เพราะเหตุไรหนังอนิเมชั่นหัวข้อนี้ถึงเป็นเลิศในผลงานในดวงใจของคนอีกจำนวนไม่น้อย
3. Spirited Away (มิติวิญญาณน่าพิศวง) , 2001
ผลงานจากสตูดิโอจิบลิยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะเหตุว่าผลงานชิ้นเอกที่เป็นที่ชอบใจของแฟนๆจิบลิมากที่สุด ได้มาปรากฏในปี 2001 อีกเรื่อง กับเรื่องราวการเสี่ยงอันตรายต่างมิติของเด็กหญิงในเมืองวิญญาณ ที่มีกลื่นอายความเชื่อถือศาสนาแบบประเทศญี่ปุ่นเข้ามาเกี่ยวโยง ซึ่งเว้นเสียแต่รายละเอียดจะบันเทิงใจชวนติดตาม งานภาพที่สวย ใส่ใจรายละเอียด แถมเต็มไปด้วยจินตนาการสุดพุ่งพร่าเลือนนแล้ว องค์ประกอบต่างๆของหนังอนิเมชั่นเรื่องนี้ยังลงตัว ทั้ง นักแสดง เพลงประกอบที่ฟังดูญี่ปุ๊นน.. ญี่ปุ่น จนกระทั่งสามารถทำให้เราเคลิ้มเสมือนหลุดไปกับผู้แสดงนำของเรื่องทุกครั้งที่ได้ฟัง
4. The Girl Who Leapt Through Time (กระโดดจั้มพ์ทะลุข้ามเวลา) , 2006
มาต่อกันที่หนังอนิเมชั่นม้ามืดจากสตูดิโอ Madhouse เรื่องเก่าประเด็นนี้ เรื่องราวของเด็กสาวที่อยู่ๆก็พบว่าตัวเองสามารถกระโจนย้อนเวลากลับไปปรับปรุงแก้ไขอดีตได้ ซึ่งเรื่องราวก็จะวนๆอยู่กับเรื่องเพื่อนฝูงคนรู้จักมักคุ้นของคุณเป็นส่วนใหญ่ เอาจริงอนิเมชั่นหัวข้อนี้ในเรื่องงานภาพถือว่าปกตินะ แม้กระนั้นในเรื่องแนวคิดที่อยากได้สะท้อนให้ผู้ชมได้มองเห็น และก็จุดหักมุมที่มีการพลิกผัน ทำให้ลำพองใจรวมทั้งเป็นอนิเมชั่นเรื่องหนึ่งที่มีอะไรต้องเก็บเอามาคิดทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องของ “เวลา” รวมทั้ง “คนข้างตัว”
5. Tekkon Kinkreet , 2006
นับว่าเป็นหนังอนิเมชั่นเรท R เส้นชั่วร้าย! แนวคิดเสียดสีเผ็ดแสบ ที่ตอนนี้ดูจะหาดูยากบนเว็บบ้านพวกเรา แต่ควรค่าแก่การหามาเสพมาก ว่าด้วยเรื่องราวการต่อสู้เพื่อรักษาอาณาเขตที่แสนวุ่นวายจากกลุ่มนักลงทุนของสองลูกพี่ลูกน้องเด็กข้างถนนขาโจ๋ ดำ (Kuro) และก็ ขาว (Chiro) ข้างในเมืองที่ปกครองด้วยความร่วมแรงร่วมมือระหว่างอำนาจมืดของแก๊งค์ยากูซ่ากับผู้รักษาสงบราฎร์ ผลงานการกำกับ Michael Arias – Art Designer คนอเมริกัน ซึ่งดำรงชีวิตในญี่ปุ่นมา 10 ปี ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมาจากมังงะของ Taiyo Matsumoto และได้รับรางวัล Japan Academy Award 2007 เป็นการรับรองคุณภาพมาแล้ว โดยความโดดเด่นของผลงานชิ้นนี้ อยู่ตรง “ความละเอียด” แล้วก็ “ลึก” เว็บดูอนิเมะ สำหรับการถ่ายทอดแนวคิดที่สะท้อนผ่านทั้งด้านงานภาพและก็ตัวเรื่องที่ “ดาร์กอย่างสดใส” ไม่เหมือนใคร ผ่านผู้แสดงนำทั้งคู่ ตกลงว่า ไปทดลองหาดูกันนะ ได้สนุกสนานและโลดแล่นไปกับจินตนาการอย่างมีอะไรให้คิดดีแหละ
6. 5 cm Per Second (ยามซากุระร่วงโรย) , 2007
และก็มาถึงคิวของอนิเมชั่นที่สุดของที่สุดแห่งความซาบซึ้ง จาก อำเภอมาโกโตะ คุ้นชินไค ที่เอาใจรวมทั้งตับใครหลายคนมาแล้วเรื่องนี้ เกิดเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องระหว่าง ความรัก ระยะทาง รวมทั้งห้วงเวลา ของหนุ่มน้อยต่อหญิงสาว เรื่องราวดำเนินไป ก็บีบหัวใจคนดูไป กับทั้ง 3 section เนื่องจากไม่ใช่แค่การถ่ายทอดอารมณ์ผ่านภาพได้อย่างพิถีพิถันละออ แบบที่เห็นแล้วยังจำเป็นต้องยอมแล้ว ในเรื่องของ บท การดำเนินเรื่อง ประเด็นความคิด ยังลึกซึ้งซาบซึ้งใจ จนกระทั่งผู้ชมยากที่จะปฏิเสธ ที่สำคัญเพลงประกอบอีกทั้งเรื่องยังเนื่องจากว่ามากมาย ความหมายก็ยังดีอีกด้วย เป็นถ้าหากผู้ใดกันแน่ไม่ได้มองประเด็นนี้ ถือว่าพลาดมากมาย แต่ต้องระวัง เนื่องจากว่าบางบุคคลบางทีอาจถึงขนาดซึมไปยาวนานหลายวัน จากการได้มองอนิเมชั่นประเด็นนี้
7. Ponyo (โปเนียว ลูกหญิงสมุทรผจญภัย) , 2008
รวมทั้งกลับมาที่สตูดิโอจิบลิอีกรอบ กับผลงานน่ารักน่าเอ็นดูๆสีสันสดใส กล่าวถึงโลกใหม่ใบเดิมของเจ้าฟ้าหญิงปลาตัวน้อย “โปเนียว” สำหรับเพื่อการเผชิญภัยฉบับภาคพื้นดินของคุณกับเด็กผู้ชายสหายใหม่ คือหนังอนิเมชั่นเรื่องนี้ ได้ผลสำเร็จงานที่ตีจินตนาการให้ฟุ้งกระจายอย่างยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ ด้วยการดำเนินเรื่องอย่างง่ายๆในอารณ์ไร้เดียงสาแบบเด็กๆแม้กระนั้นก็ยังไม่วายซ่อนเร้นแง่คิดเรื่องความเกี่ยวข้องครอบครัวรวมทั้งธรรมชาติเข้ามาให้นึกถึงกัน ความเด็ดอีกอย่างก็ดูเหมือนเป็นเพลงประกอบนี่แหละ เวอร์ชั่นปกติก็น่าร้ากกกรัม. ส่วนเวอร์ชั่นโอเปร่าก็ปลุกใจทำให้หัวใจโป่งพองดีจริง (ฮา)
8. Summer Wars (เรื่องยุ่ง ตระกูลใหญ่) , 2009
มาที่ผลงานสนุกๆลับสมอง ต่อสู้ไหวพริบปฏิภาณ ที่ดูมีความเป็นวีรบุรุษหน่อยๆจากสตูดิโอ Madhouse อีกเรื่อง ซึ่งคงจะถูกอกถูกใจชาวไอทีหรือคอคณิตศาสตร์ กล่าวถึงการต่อสู้ในโลกเหมือนบนระบบเครือข่ายของ “มนุษย์” ในร่างอวตารกับ “AI ” ที่ก่อความไม่สงบให้กับระบบสาธารณูปโภค กระทั่งไปถึงการปล่อยขีปนาวูธ เป็นหัวข้อนี้มีหลายความคิดเห็น บ้างก็ว่าสนุกสนาน บ้างก็ว่าปวดหัว เนื่องจากตัวเรื่องมีการใช้ชั้นเชิงและกล่าวในเชิงภาษาคอมพิวเตอร์และเลขคณิต แต่เอาจริงเอาจังๆถ้าคนไหนกันไม่ติดปัญหานี้ ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรือเข้าใจยากอะไร อนิเมชั่นเรื่องนี้จัดว่าสนุก! และก็สนุกมาก!! เพราะว่าเป็นการต่อสู้ที่ทำให้ทุกคนสามารถจะรู้สึกร่วมได้ แถมยังสร้างเสริมความรักในครอบครัวอีกด้วยนี่สิ
9. Children Who Chase Lost Voices (เด็กหญิงกับเสียงเรียกหาที่โลกเทพา) , 2011
มากันที่อนิเมชั่นเรื่องต่อไป จาก อ.เคยชินไค อีกประเด็น หัวข้อนี้เป็นแนวแฟนตาซีคะ กล่าวถึงการเดินทางผจญภัยของเด็กหญิง เพื่อนำผู้เป็นสุดที่รักกลับมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใต้ดิน ตัวเรื่องจะเอ่ยถึงเรื่องความเชื่อ จิตวิญญาณ รวมทั้งชนเผ่าโบราณ ซึ่งก็เป็นโอกาสให้เราล่องลอยไปในบรรยากาศภาพสวยๆเรื่องราวแอบๆเหงาของ อ.ชินไค อีกครั้ง แต่ความสะดุดตาสูงที่สุดน่าจะเป็นเรื่องของแนวความคิดและจินตนาการแขนที่ใส่เข้าไปสำหรับเพื่อการดำเนินเรื่องมากยิ่งกว่า ถึงแม้บางครั้งอาจจะเป็นอนิเมชั่นที่ไม่ทำใหจับใจอะไรนัก หากเปรียบเทียบกับผลงานเรื่องก่อน แต่อนิเมชั่นเรื่องนี้ก็แฝงแง่คิดอะไรให้ผู้ชมได้ดิบได้ดีทีเดียว ที่สำคัญ เพลงประกอบหลัก เนื่องจากว่าอีกนั่นแหละ!
10. Hotarubi No Mori E (สู่ป่าแห่งแสงหิ่งห้อย) , 2011
ถ้าเกิดใครกันแน่ติดอกติดใจอนิเมชั่นงดงามๆอย่างเรียบง่าย สไตล์ “นัตซึเมะกับบันทึกพิศวง (Natsume’s Book of Friends)” นี่จะเป็นหนังอนิเมชั่นที่ไม่สมควรพลาดเลยทีเดียว กล่าวถึงเรื่องราวความสัมพันธ์แสนบริสุทธิ์ที่ถักทอผ่านวันเวลาของเด็กผู้หญิงกับภูตผีปีศาจชายหนุ่มในป่าใหญ่ ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นอนิเมชั่นต้นแบบภาพยนตร์ที่มีเวลาจำกัด แม้กระนั้นเรื่องราวกลับสามารถดำเนินไปอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไปแต่ว่ากระชับ กระทั่งสามารถทำให้คนดูอินและปลื้มปิติไปกับเรื่องราวได้อย่างไม่ยากเย็น นับว่าเป็นหนังอนิเมชั่น feel good ดีๆที่สุดด้านหลังแม้จะจบแบบที่พวกเราต้องกล่าวว่า… “อ้าว?” แต่ก็ยังเป็นอนิเมชั่นน่าดูที่เหมาะสมแก่การบอกต่อเรื่องหนึ่งแบบเดียวกัน