แมนฯ ซิตี้ vs ดอร์ทมุนด์ เตรียมพบกับเกมหยุดโลก! ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม (ลีกเฟส) คู่บิ๊กแมตช์ประจำกลางสัปดาห์ เมื่อทัพ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมแกร่งจากอังกฤษ จะได้เปิดสนามเหย้า เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยอดทีมจากเยอรมนีที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักสุดขีด เจ้าบ้านต้องการสามคะแนนเพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่ม ขณะที่ทีมเยือนก็หวังบุกมาล้างแค้นและสร้างเซอร์ไพรส์ เกมนี้จึงเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดสมศักดิ์ศรี!

ข้อมูลสำคัญก่อนเกม แมนฯ ซิตี้ vs ดอร์ทมุนด์
- การแข่งขัน ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบลีกเฟส นัดที่ 4)
- สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม, แมนเชสเตอร์
- เวลา 0300 น. (คืนวันพุธที่ 5 พ.ย. 68 เข้าเช้าวันพฤหัสบดี)
- ราคาบอล แมนฯ ซิตี้ ต่อ 1.75 (ลูกครึ่งควบสอง)
สถิติการพบกัน (H2H) แมนฯ ซิตี้ vs ดอร์ทมุนด์
“เรือใบข่ม” คือคำจำกัดความของคู่นี้ในช่วงหลัง สถิติที่ผ่านมาเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเล่นในบ้าน และนี่คือ “ฮาแลนด์ ดาร์บี้” ที่น่าจับตา
- 5 นัดหลังสุดที่พบกัน
- 25/10/22 ดอร์ทมุนด์ เสมอ แมนฯ ซิตี้ 0-0 (แชมเปี้ยนส์ ลีก)
- 14/09/22 แมนฯ ซิตี้ ชนะ ดอร์ทมุนด์ 2-1 (แชมเปี้ยนส์ ลีก)
- 14/04/21 ดอร์ทมุนด์ แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2 (แชมเปี้ยนส์ ลีก)
- 06/04/21 แมนฯ ซิตี้ ชนะ ดอร์ทมุนด์ 2-1 (แชมเปี้ยนส์ ลีก)
- 03/12/12 ดอร์ทมุนด์ ชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 (แชมเปี้ยนส์ ลีก)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของ แมนฯ ซิตี้
ทัพ “เรือใบสีฟ้า” กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ชนะ 4 จาก 5 นัดหลังสุดในทุกรายการ และเกมรุกก็ยังคงอันตรายเสมอ
- ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 (เหย้า) – คาราบาว คัพ
- ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 (เยือน) – พรีเมียร์ลีก
- ชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-0 (เหย้า) – แชมเปี้ยนส์ ลีก
- ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-0 (เหย้า) – พรีเมียร์ลีก
- แพ้ อาร์เซน่อล 0-1 (เยือน) – พรีเมียร์ลีก
สภาพความพร้อมของ แมนฯ ซิตี้
กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีทีมที่กำลังลงตัวและมั่นใจสุดขีด สภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์พร้อมรบ อาจมีการหมุนเวียนผู้เล่นบางตำแหน่งจากเกมบอลถ้วย แต่แกนหลักอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่จะได้เจอทีมเก่า, เควิน เดอ บรอยน์ และ ฟิล โฟเดน น่าจะพร้อมลงสนามปั่นป่วนแนวรับทีมเยือน

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของ ดอร์ทมุนด์
ทัพ “เสือเหลือง” ก็กำลังอยู่ในฟอร์มที่ “ร้อนแรงสุดขีด” ไม่แพ้กัน ชนะ 4 จาก 5 นัดหลังสุดในทุกรายการ (รวมชนะจุดโทษ) และเพิ่งระเบิดฟอร์มโหดในลีกมาหมาดๆ
- ชนะ เอาก์สบวร์ก 3-0 (เยือน) – บุนเดสลีกา
- ชนะ (จุดโทษ) ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 1-1 (เยือน) – เดเอฟเบ โพคาล
- ชนะ โคโลญจน์ 1-0 (เหย้า) – บุนเดสลีกา
- ชนะ โคเปนเฮเกน 4-2 (เยือน) – แชมเปี้ยนส์ ลีก
- แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-2 (เยือน) – บุนเดสลีกา
สภาพความพร้อมของ ดอร์ทมุนด์
ทีมเยือนของกุนซือ นูริ ซาฮิน กำลังมั่นใจสุดๆ หลังพาทีมทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง สภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์พร้อมจัดทัพชุดที่ดีที่สุดลงสนาม นำโดยดาวยิงตัวเก่งอย่าง แซร์อู กีราสซี่ ที่ฟอร์มร้อนแรงสุดขีด พร้อมด้วย ยูลีอาน บรันท์ และ โจวันนี เรย์นา ที่คอยสนับสนุนเกมรุก
บทวิเคราะห์และทรรศนะบอล แมนฯ ซิตี้ vs ดอร์ทมุนด์ by. บ้าบอล
ราคาเปิดมาให้ แมนฯ ซิตี้ ต่อโหดถึง “ลูกครึ่งควบสอง” ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงมากเมื่อพิจารณาจากฟอร์มของทีมเยือน “เรือใบสีฟ้า” ได้เปรียบอย่างชัดเจนจากการเล่นใน เอติฮัด สเตเดี้ยม ที่แข็งแกร่งราวกับป้อมปราการ และสถิติ H2H ก็ข่มกว่า
อย่างไรก็ตาม ดอร์ทมุนด์ ก็กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดีที่สุด ชนะ 4 จาก 5 นัดหลังสุด (นับรวมเกมบอลถ้วย) และเกมรุกก็ยิงประตูได้ต่อเนื่อง พวกเขามาเยือนในฐานะทีมที่กำลังมั่นใจ ไม่ใช่ทีมที่จะมาโดนยำง่ายๆ
เกมนี้คาดว่าจะเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ครองเกมและเดินหน้าบุกเข้าใส่ตามสไตล์ถนัด แต่ ดอร์ทมุนด์ ก็มีเกมสวนกลับที่อันตรายจาก กีราสซี่ และ บรันท์ สุดท้ายแล้วเชื่อว่าด้วยคุณภาพที่เหนือกว่าในบ้านจะทำให้ แมนฯ ซิตี้ เบียดเอาชนะไปได้ แต่การจะยิงขาดทะลุราคาต่อรองที่สูงถึง 1.75 อาจจะยากเกินไป เพราะ ดอร์ทมุนด์ ก็แกร่งพอที่จะสู้และอาจยิงประตูคืนได้
- ฟันธงทีเด็ด รอง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
- สกอร์ที่คาด แมนฯ ซิตี้ ชนะ 2-1
- ระดับความมั่นใจ ⭐⭐⭐⭐ (7/10)
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q ทำไมเกมนี้ถึงเป็น “ฮาแลนด์ ดาร์บี้”?
- A เพราะ เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าตัวเก่งของ แมนฯ ซิตี้ เคยเป็นดาวยิงสูงสุดและสร้างชื่อเสียงโด่งดังกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาก่อน การเจอกันของทั้งสองทีมจึงถูกจับตามองเป็นพิเศษเสมอ
Q ทำไม แมนฯ ซิตี้ ถึงเป็นต่อขาดลอย ทั้งที่ ดอร์ทมุนด์ ก็ฟอร์มดี?
- A เพราะมาตรฐานการเล่นในบ้านของ แมนฯ ซิตี้ นั้นสูงมาก พวกเขามักจะทำผลงานได้ดีและยิงประตูขาดลอยใน เอติฮัด สเตเดี้ยม เสมอ ทำให้บ่อนพนันยังคงให้เครดิตเจ้าบ้านมากกว่า แม้ทีมเยือนจะฟอร์มดีก็ตาม
Q ใครคือนักเตะที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ?
- A ฝั่งเจ้าบ้านคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่จะได้เจอทีมเก่า ส่วนทีมเยือนต้องจับตาดู แซร์อู กีราสซี่ ว่าจะสามารถใช้ความร้อนแรงในลีก มาแผลงฤทธิ์ในเกมยุโรปนัดสำคัญนี้ได้หรือไม่