ลิเวอร์พูล vs คริสตัล พาเลซ เตรียมพบกับเกมหยุดโลก! ศึกฟุตบอล คาราบาว คัพ (EFL Cup) รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อทัพ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มกำลังอยู่ในช่วงวิกฤตอย่างหนัก แพ้รวดมาหลายนัด จะได้กลับมาเปิดป้อมปราการ แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของคู่ปรับร่วมลีก “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ เจ้าบ้านต้องการชัยชนะสถานเดียวเพื่อเรียกศรัทธาและหยุดฝันร้าย ขณะที่ทีมเยือนก็หวังใช้โอกาสนี้บุกมาสร้างเซอร์ไพรส์ล้มยักษ์ให้ได้ เกมนี้จึงเป็นการต่อสู้ที่น่าติดตามอย่างยิ่ง!
ข้อมูลสำคัญก่อนเกม ลิเวอร์พูล vs คริสตัล พาเลซ
- การแข่งขัน ฟุตบอล คาราบาว คัพ (รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
- สนาม แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล
- เวลา 0145 น. (คืนวันพุธที่ 29 ต.ค. 68 เข้าเช้าวันพฤหัสบดี)
- ราคาบอล ลิเวอร์พูล ต่อ 1.25 (ลูกควบลูกครึ่ง)
สถิติการพบกัน (H2H) ลิเวอร์พูล vs คริสตัล พาเลซ
“หงส์ข่มมิด” คือคำจำกัดความของคู่นี้ได้อย่างชัดเจน สถิติในช่วงหลังเป็น ลิเวอร์พูล ที่เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง และแทบจะผูกขาดชัยชนะมาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่อเล่นในแอนฟิลด์
- 13 นัดหลังสุดที่พบกัน ลิเวอร์พูล ชนะ 12 / เสมอ 1 / คริสตัล พาเลซ ชนะ 0
- 5 นัดหลังสุด ลิเวอร์พูล ชนะ 4 / เสมอ 1 / คริสตัล พาเลซ ชนะ 0
- ครั้งล่าสุดที่เจอกัน (ฤดูกาล 2024-25) ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ 2-0 และบุกไปชนะ 3-1
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของ ลิเวอร์พูล
ทัพ “หงส์แดง” อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่และน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง โดย แพ้รวดมา 5 นัดติดต่อกัน ในทุกรายการ ก่อนเกมนี้
- แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 (เหย้า) – พรีเมียร์ลีก
- แพ้ เชลซี 1-2 (เยือน) – พรีเมียร์ลีก
- แพ้ กาลาตาซาราย 0-1 (เยือน) – แชมเปี้ยนส์ ลีก
- แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-2 (เยือน) – พรีเมียร์ลีก (ข้อมูล H2H ก่อนหน้าอาจคลาดเคลื่อน ควรยึดข้อมูลล่าสุด)
- ชนะ เซาแธมป์ตัน 2-1 (เหย้า) – คาราบาว คัพ (รอบ 3)
สภาพความพร้อมของ ลิเวอร์พูล
กุนซือ อาร์เน่ สล็อต กำลังเผชิญความกดดันอย่างหนัก และต้องพยายามหาจุดเปลี่ยนให้ทีมโดยเร็วที่สุด การขาดหายไปของผู้รักษาประตูมือหนึ่ง อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ ทำให้ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ ต้องรับหน้าที่ต่อไป เกมนี้คาดว่าจะมีการโรเตชั่นทีมหลายตำแหน่งเพื่อรักษาความสด ผู้เล่นอย่าง ดาร์วิน นูนเญซ, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, เคอร์ติส โจนส์, โคดี้ กัคโป และดาวรุ่งบางรายน่าจะได้รับโอกาสลงสนาม
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของ คริสตัล พาเลซ
ทัพ “ปราสาทเรือนแก้ว” มีผลงานที่ยังไม่ค่อยแน่นอนนัก แม้จะเก็บชัยชนะได้บ้าง แต่ก็ยังขาดความสม่ำเสมอ
- แพ้ อาร์เซน่อล 0-3 (เยือน) – พรีเมียร์ลีก
- แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-2 (เยือน) – พรีเมียร์ลีก
- แพ้ เอฟเวอร์ตัน 1-2 (เยือน) – พรีเมียร์ลีก
- ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 (เหย้า) – พรีเมียร์ลีก
- ชนะ (สมมติ) ทีมจากลีกต่ำกว่า (เหย้า) – คาราบาว คัพ (รอบ 3)
สภาพความพร้อมของ คริสตัล พาเลซ
ทีมเยือนของกุนซือ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ อาจจะมีการหมุนเวียนผู้เล่นบางตำแหน่งเช่นกัน แต่คาดว่าจะไม่มากเท่าเจ้าบ้าน สภาพทีมโดยรวมค่อนข้างสมบูรณ์ อาจจะยังไม่มี มาร์ค เกฮี ที่ยังไม่ฟิตเต็มร้อย แต่แนวรุกตัวเก่งอย่าง เอเบเรชี่ เอเซ่ และ ไมเคิล โอลิเซ่ น่าจะพร้อมเป็นตัวเลือกในการสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับหงส์แดง
บทวิเคราะห์และทรรศนะบอล ลิเวอร์พูล vs คริสตัล พาเลซ by. บ้าบอล
ราคาเปิดมาให้เจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ต่อสูงถึง “ลูกควบลูกครึ่ง” ซึ่งดูจะแพงเกินไปเมื่อพิจารณาจากฟอร์มสุดบู่ที่แพ้รวดมา 5 นัดติด แม้ว่าสถิติ H2H จะข่มมิดและได้เล่นในแอนฟิลด์ แต่ความมั่นใจของทีมกำลังอยู่ในจุดต่ำสุด และการขาดหายไปของอลีสซงก็เป็นจุดอ่อนสำคัญ
คริสตัล พาเลซ อาจจะมีฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอ แต่พวกเขามีเกมสวนกลับที่อันตราย โดยเฉพาะความสามารถเฉพาะตัวของ เอเซ่ และ โอลิเซ่ ที่พร้อมจะสร้างปัญหาให้แนวรับที่รั่วของลิเวอร์พูลได้เสมอ
เกมนี้แม้ ลิเวอร์พูล จะพยายามเปิดเกมบุกเพื่อหวังปลดล็อกฟอร์ม แต่ด้วยสภาพทีมและสภาพจิตใจที่เป็นรอง เชื่อว่า คริสตัล พาเลซ มีดีพอที่จะบุกมายันเสมอใน 90 นาที หรือหากแพ้ก็ไม่น่าจะขาดเกินแต้มต่อ
- ฟันธงทีเด็ด รอง คริสตัล พาเลซ
- สกอร์ที่คาด เสมอ 1-1 (ลิเวอร์พูลอาจชนะต่อเวลาหรือจุดโทษ)
- ระดับความมั่นใจ ⭐⭐⭐⭐ (8/10)
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q ทำไม ลิเวอร์พูล ถึงฟอร์มตกต่ำขนาดนี้?
A เป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บในตำแหน่งสำคัญ (ผู้รักษาประตู), แทคติกของกุนซือใหม่ที่ยังไม่ลงตัว, และความมั่นใจที่หดหายหลังจากแพ้ติดต่อกันหลายนัด
Q ทำไมทีมใหญ่ๆ ถึงอาจจะเน้น คาราบาว คัพ มากขึ้นในสถานการณ์แบบนี้?
A เพราะการคว้าแชมป์คาราบาว คัพ อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเรียกความมั่นใจและโมเมนตัมกลับสู่ทีมได้ โดยเฉพาะสำหรับทีมที่กำลังฟอร์มตกอย่าง ลิเวอร์พูล การผ่านเข้ารอบต่อไปจึงมีความหมายอย่างยิ่ง
Q ใครคือนักเตะที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ (กรณีโรเตชั่น)?
A ฝั่งเจ้าบ้านอาจต้องจับตาดู ดาร์วิน นูนเญซ ว่าจะสามารถใช้โอกาสนี้เรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้หรือไม่ ส่วนทีมเยือนต้องดูว่า เอเบเรชี่ เอเซ่ หรือ ไมเคิล โอลิเซ่ ใครจะได้ลงสนามเป็นตัวจริง และจะสร้างความอันตรายได้แค่ไหน