i used to be famous netflix อดีตกาลสมาชิกวงบอยแบนด์คนหนึ่งได้รับจังหวะครั้งลำดับที่สองโดยไม่คาดคิด เมื่อเขาสานชมรมกับสาวคนตีกลองมากมายความสามารถพิเศษ แนวดนตรีฟอร์มเล็กจากอังกฤษ เรื่องราวของหนุ่มน้อยใหญ่วัย 40 กว่าตราบจนกระทั่งๆที่โบราณกาลเคยเป็นพวกบอยแบนด์วงดัง และก็กำลังมานะพาตัวเองกลับเข้าวงการด้วยการแต่งเพลงใหม่ของตนเอง แม้กระนั้นก็ไม่เป็นผลสำเร็จ

ตราบจนกระทั่งมาพบกับชายหนุ่มออทิสติกส์ที่มีพรสวรรค์การเป็นมือกลองมาจับคู่กับเขาทำวงดนตรีด้วยกันบางทีอาจจมีบางนักแสดงที่เป็นส่วนเสริมเข้ามาบ้าง อย่าง ลิเบอร์ตี้ ที่จำต้องศึกษาตัวเองเพื่อรับพลังพิเศษของคุณ ซึ่งแต่ละผู้แสดงจะมีพลังพิเศษที่ไม่เหมือนกันออกไป ทำให้ในส่วนนี้น่าดึงดูดอยู่ไม่น้อย เนื่องจากมันจะอิงจากคาแรคเตอร์ของนักแสดงนั่นเอง ทั้งการเชื่อมต่อกันของผู้แสดงเล่าออกมาได้ค่อนข้างจะดี

แม้ว่าจะมิได้ขยี้เท่าไรนัก แม้กระนั้นการพบเจอกันของไรเดอร์ แล้วก็สกายก็ให้ความรู้ความเข้าใจสึกที่ลึกซึ้งทีเดียวถึงแบบงั้นการติดต่อสื่อสารแก่นของผู้แสดง สกาย อาจจะทำให้คนอีกหลายๆคนรู้สึกรวมทั้งอินไปพร้อม เพราะว่าใช้ถ้อยคำ และก็สิ่งที่เป็นรูปธรรมให้มองเห็นถึงความพากเพียรของตนที่หากแม้รูปร่างเล็กแม้กระนั้นก็บากบั่นไม่น้อย จนกระทั่งทำให้ได้รับการยินยอมรับจากไรเดอร์และก็สมาชิกในกลุ่ม แน่ๆว่ากล่าวมาขนาดนี้

หนังในภาคนี้เล่ารายละเอียดของเพื่อนเป็นหลัก i used to be famous netflix จนถึงทำให้หมาตัวอื่นๆเกือบจะจางไปเลยบางทีอาจจมีบางผู้แสดงที่เป็นส่วนเสริมเข้ามาบ้าง อย่าง ลิเบอร์ตี้ ที่จำต้องทำความเข้าใจตัวเองเพื่อรับพลังพิเศษของคุณ ซึ่งแต่ละนักแสดงจะมีพลังพิเศษที่ไม่เหมือนกันออกไป ทำให้ในส่วนนี้น่าดึงดูดอยู่ไม่น้อย เนื่องจากว่ามันจะอิงจากคาแรคเตอร์ของนักแสดงนั่นเอง ทั้งการเชื่อมต่อกันของผู้แสดงเล่าออกมาได้ค่อนข้างจะดี

แม้ว่าจะมิได้ขยี้เท่าไรนัก แม้กระนั้นการพบเจอกันของไรเดอร์ และก็สกายก็ให้ความรู้ความเข้าใจสึกที่ลึกซึ้งทีเดียวด้านงานแอนิเมชันยังคงมาตรฐานตามเดิม การใส่เนื้อหาสำหรับหมาแต่ละสายพันธุ์ให้มองเห็นถึงเอกลักษณ์รวมทั้งคุณลักษณะเด่นปกติที่เคยสัมผัสกันมาแล้ว แม้กระนั้นด้วยการได้รับพลังใหม่ทำให้อีกทั้งชุดแต่งกาย รวมทั้งเอฟเฟกต์พลังมากขึ้นจากตัวแอนิเมชันธรรมดา ซึ่งทำออกมาได้โอเคอยู่เช่นเดียวกัน ถึงแม้เอฟเฟกต์จะมิได้หวือหวาแต่ว่าก็เป็นสิ่งที่กลมกล่อมละมุนละไมกับตัวบทรวมทั้งภาพรวมของเรื่อง

i used to be famous netflix

i used to be famous netflix

เป็นภาพยนตร์แนว ตลกขบขัน คอมเมดี้ ดนตรี ที่ได้ผู้กำกับอย่าง “เอ็ดดี้ สเติร์นเบิร์ก” มาทำดูแลให้กับภาพยนตร์ประเด็นนี้ โดยเรื่องราวเกิดเหตุราวของสมาชิกบอยแบนด์เลื่องลือ ที่ลาออกจากวงการบอยแบนด์ เพื่อจะออกอัลบั้มลำพังเป็นของตนเอง เขาพยามดิ้นร้นทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง และก็กระแข็งทื่อรือร้นกับอาชีพของเขาคนเดียว แต่ถ้าว่าอยู่มาวันหนึ่งได้

พบกับมือกลองออทิสติก ที่จะมาแปลงชีวิตของเพศชายไปตลอลกาล จัดการสำหรับดนตรีขณะที่เราดำตรงสู่โลกของวงบอยแบนด์ไปกับพวกเขาได้ในวันที่ 16 ก.ย.นี้บนจอ Netflix แล้วก็ เว็บไซต์ของเรา cinemas1.com บอกเลยว่าผู้ใดกันที่ชอบใจในภาพยนตร์แนว เพลง ดนตรี ภาพยนตร์เรื่องนี้จัดว่าตอบปัญหาผู้ชมได้ในระดับหนึ่ง และยังสร้างเสียงหัวเราะพอให้เราได้ยิ้มตามอีกด้วย เรื่องราวจะเป็นอย่างไร มาดูเรื่องราวของพวกเขากันเลยดีกว่า

ภาพยนตร์หัวข้อนี้จะมีผลให้ไปสู่ที่ ที่มันนำไปสู่มิตรภาพใหม่ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เกิดเหตุราวของชายหนุ่มวงบอยแบนด์เป็นที่รู้จักอย่าง “Vince” (สวมบทโดย Ed Skrein) เขานั้นเป็นเยี่ยมในสมาชิกบอยแบนด์ที่กำลังฮอตที่สุด แต่ในตอนนี้ “Vince” มีปัญหากับคนในวงก็เลยจำเป็นที่จะต้องลาออก ขณะนี้นักร้องสุดฮอตกลายเป็นนักร้องเสื่อมถอยอยู่คนเดียวและจากนั้นก็ห่อเหี่ยวใจ อยู่มาวันหนึ่งเลือดนักร้องของเขาก็กำลังไหลเวียน ก็เลยได้เริ่มที่การเริ่มแสดงที่ถนนเพ็คแฮม พร้อมด้วยเพื่อนพ้องมิตรสหายใหม่ที่พึ่งพิงพบกันของเขาอย่าง

“สตีวี่” (รับบทบาทโดย ลีโอ ทดสอบ) มือกลองออทิสติกที่มีพรสวรรค์ด้านการตีกลอง ถึงจะมองดูบ้าๆไปหน่อยก็ตาม ทั้งสองได้เริ่มแสดงหวังว่าจะมีใครสักคนที่จะฟัง แต่ในเวลาที่พวกเขากำลังแสดงนั้น ก็เกิดปัญหาระหว่างการแสดงก็เลยทำให้หลงทางกัน แต่ว่าเมื่อมีคนเริ่มเข้าาดูทั้งสองก็เริ่มผูกมิตรอันเป็นเอกลักษณ์ผ่านพลังที่ดนตรี มาดูกันเลยว่าเรื่องราวะเป็นยังไงต่อไป

ทั้งผองทั้งหลายทั้งมวลของ “PAW Patrol: The Mighty Movie กรรมวิธีน้องหมาสี่ขา เดอะ ไมตี้ มูฟวี่” ภาคนี้ทำออกมาได้ดิบได้ดีตามมาตรฐานที่เคยฝากเอาไว้ การเล่าเรื่องที่ผสมความแฟนตาซีมีความกลมกล่อม แต่กันในส่วนของภูมิหลังผู้แสดง แมสเสจที่อยากติดต่อออกมาค่อนข้างจะซ้ำจากจำเจ ถึงแม้ว่าจะมองเพลิดเพลิน ย่อยง่าย แต่ว่ามันก็ทำให้ความรู้สึกในหนังจางไปไวเช่นเดียวกัน ถึงแบบนั้นเองการก้าวเดินสู่กลุ่มเป้าหมายของเด็กและก็ครอบครัวของหนังหัวข้อนี้กลับตอบปัญหาก้าวหน้าเลย

ได้เวลามาแซ่บ..กับเกมความร้อนเร่าของพวกเขาทั้งคู่ กับหนังระทึกขวัญซ่อนเกมการแข่งขันบนเชือดคมที่น่าจะระอุไม่เบา อย่าง “Fair Play” ที่ติดเรท R ที่มีเนื้อหาหักเหลี่ยมกันทุกครั้งที่ได้ทีเผลอ i used to be famous netflix กับจังหวะเร่งเร้าของคู่รักที่ไม่อาจจะคบกันได้อย่างเปิดเผย ต้องมาเผชิญหน้ากับการต่อสู้กันในบริษัทที่เสี่ยงทำให้ความรักต้องสะบั้น!

เป็นเรื่องราวชีวิตอันแสนสุขสมของ เอมิลี กับ ลุค หนุ่มสาวที่คลั่งรักกันและกัน โดยที่พวกเขาหมั้นหมายเตรียมตบแต่งกันเร็ว ๆ นี้ เพียงแต่พวกเขาทำงานที่เดียวกัน ที่มีนโยบายห้ามคบหาและมีความสัมพันธ์กันเด็ดขาด เมื่อการเลื่อนตำแหน่งอย่างเหนือความคาดหมายในกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ทุกฝ่ายขับเคี่ยวกัน กลายเป็นจุดแตกหักระหว่างพวกเขา และกลายเป็นการบ่อนทำลายชีวิตคู่ที่พร้อมจะพังลงได้ทุกเมื่อ

นี่คือผลงานใหม่ของผู้กำกับหญิง “โคลอี โดมอนต์” (จากซีรีส์ Ballers) ที่นับว่าคัมแบ็กกลับมาทำหนังอีกครั้งในรอบเกือบสิบปี และถือว่าเป็นการกลับมาที่ค่อนข้างท็อปฟอร์มไม่น้อย เพราะหนังเรื่องนี้ค่อนข้างโดดเด่นเมื่อตอนเปิดตัวฉายที่เทศกาลหนังซันแดนซ์ ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยงานนี้เธอรับหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบทเอง มันกลายเป็นอีกงานชิ้นเอกของเธอไปแล้ว

i used to be famous netflix

รีวิว คนเคยดัง (2022)

หนังแนวดนตรีจากผู้กำกับมือใหม่ที่ทำออกมาขาดๆเกินๆในหลายจุด มีเงื่อนของตัวพระเอกที่วางไว้ดีเลย แม้กระนั้นไม่ขยี้ให้สุดกลายเป็นสะสางง่ายเบาๆส่วนเพลงที่แม้ว่าจะน้อยแต่ก็จังหวะดนตรีกับเนื้อร้องก็เพราะ แต่ไม่ถึงกับสุดมากเนื่องจากว่าในเรื่องเป็นแค่นักดนตรีข้างถนนเท่านั้น แต่ปัญหาของเรื่องที่ค่อนจะห่วยเลยเป็น ตัวละครในบทเด็กออทิสติกส์มือกลองที่เล่นไม่เปรียบเสมือนคนเป็นออทิสติกส์เลย

ทำให้ตัวเรื่องขาดการบิ้วอารมณ์แบบที่ควรเป็นกับบทนี้ไปเยอะมากๆ รวมทั้งขาดการส่งอารมณ์ถึงตัวพระเอกที่เล่นล้ำหน้าแล้ว แต่ถึงตัวหนังจะขาดๆเกินๆแต่ก็ไม่ได้ไม่ดีหรือชั่วโคตรอะไร สามารถดูเพลิดเพลินเจริญใจๆได้ มีเพลงน่าฟังๆตามสูตรได้อยู่ครับ หนังฟอร์มเล็กที่โนเนมเยอะมาก

ผู้กำกับก็มือใหม่เรื่องแรก Eddie Sternberg แม้กระนั้นด้วยเครดิตที่มาจากการทำหนังสั้นชื่อเดียวกันพล็อตเดียวกันเข้าชิงรวมถึงได้รางวัลมาหลายตัวใช่เล่น ซึ่งเน็ตฟลิกซ์ก็ยื่นหนทางให้รีเมคสร้างใหม่เป็นหนังยาวเต็มกำลัง ซึ่งบทสรุปที่ได้ก็มีทั้งส่วนดีและไม่ดีผสมกัน ส่วนที่ดีของเรื่องนี้เป็น เงื่อนของเรื่องดี เพลงเพราะ ส่วนที่ห่วยแตกเป็นนักแสดง โดยเงื่อนของเรื่องตามสูตรแนวดนตรีก็ถูกใจเป็นการหาจังหวะแจ้งเกิด

แต่เรื่องนี้เป็นผู้แสดงนำชายเคยดัง แล้วก็มุ่งหมายจังหวะลำดับที่สองอีกครั้ง ตัวเรื่องเปิดมาเป็นผ่านมา 20 ปีเลยหลังจากเกริ่นหน่อยเดียวว่านักแสดงนำชายเคยดังมากไม่น้อยเลยทีเดียวจริงๆเป็นตำนานบอยแบนด์คนนึงเลย แต่ก็ขยักเงื่อนว่าเพราะเหตุใดเขาแปลงมาเป็นคนโชคร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเรื่องจะมีแฟลชแบ็คย้อนไปเป็นช่วงๆให้ลงความคิดเห็นว่าเขามีน้องชายคนหนึ่งที่ป่วยหนักอยู่ และมีคำปัญญาที่ให้ไว้แก่กันแม้กระนั้นเขาทำมันไม่ได้จากงานดนตรีที่เขากำลังรุ่ง ซึ่งจุดนี้เองเป็นจุดแปลงชีวิตรวมทั้งสร้างแผลใจทำให้เขาเปลี่ยนแปลงมาเป็นคนตกอับอย่างในเวลานั้น

ตัวเรื่องเอาเงื่อนสมัยโบราณของผู้แสดงนำชายมาผูกกับหนุ่มน้อยออทิสติกส์ที่พึ่งพิงพบเจอพรสวรรค์มือกลองและก็เข้าขากันอย่างยิ่ง แล้วก็เช่นเดียวกันกับน้องชายเขาในอดีตสมัยที่เขาทำผิดพลาดไปนั่นเอง ซึ่งตัวเด็กก็มีเงื่อนว่าถูกแม่กั๊กไว้ไม่ให้ไปเรียนดนตรีเอาจริงเอาจังเพราะเหตุว่าห่วงหัวข้อการเข้าสังคมที่ขาดคนช่วยเหลือ แม่ของเขาเองถึงกับยอมทิ้งอาชีพนักเต้นมาเพื่อดูแลลูกด้วยเหมือนกัน

เมื่อมาแลเห็นผู้แสดงนำชายพยายามเชิญชวนลูกไปทำดนตรี เลยรู้สึกเขากำลังพาลูกไปเสี่ยง ถึงแม้ว่าลูกจะชื่นชอบสิ่งนี้ก็ตาม ซึ่งตัวเรื่องสร้างเงื่อนขัดแย้งของนักแสดงได้ค่อนข้างจะดีเลย มีความน่าติดตามว่าเรื่องจะสะสางเงื่อนต่างๆนี้ได้อย่างไร แต่ว่าพลาดตรงขยี้ดราม่าน้อยมาก ตัวเรื่องหาทางออกแบบเบาๆกับทุกเรื่องจนกระทั่งรู้สึกเหมือนเรื่องปูมามากมายหากแม้จบแบบเบาหวิวสุดๆ

ตัวเพลงเป็นอีกส่วนที่เรื่องนี้ทำเป็นดีเลย ซึ่งในหัวข้อนี้เป็นมุมนักดนตรีข้างถนนเล็กๆมีเพลงเพียง 3 เพลงหลักในเรื่อง แต่ว่าเมื่อใดก็ตามเรื่องเข้าทำนองดนตรีธีมหลักของเรื่องก็ทำให้ฉากนั้นดูรื้นเริงชักชวนอินเล็กๆไปกับการประสบความสำเร็จบ้านๆของวงผู้แสดงนำชายกับเด็กออทิสติกส์เจริญก้าวหน้าเลยปัญหาของเรื่องจำเป็นๆอยู่ตรงตัวนักแสดงสำคัญที่เป็นเด็กออทิสติกส์ในเรื่อง

ซึ่งก็แคสดาราใหม่มาเล่นเลยชื่อ Leo Long ซึ่งลุคดูเหมือนกับว่าได้ i used to be famous netflix แต่ความรู้ความเข้าใจทางการแสดงเป็นเด็กออทิสติกส์กลับไม่ได้เลยขาดความน่าไว้ใจว่าเป็นจริงด้วยอะไรหลายๆอย่างที่ไม่เช่นเดียวกันกับ ถึงแม้บทจะค่อนข้างจะส่งให้เขาได้ช่องแสดงความเป็นออทิสติกส์ที่ควรจะมีปัญหาในชีวิตหลายหนเวลาเจอเสียงดังหรือผู้คนรบกวน ซึ่งพอนักแสดงเล่นไม่ได้เข้าไม่ถึง ก็เลยไม่เชิญอินกับบทนี้ไปด้วย

ตลอดตัวแม่ของเด็กก็ยังคล้ายคลึงกันเป็นเป็นบทแม่ที่ต้องดูแลเด็กออทิสติกส์ แม้กระนั้นเล่นไม่อย่างกับไม่ชวนอิน จนกระทั่งทำให้ดูแล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าห่วงลูก เปลี่ยนไปศิลปินที่รอคอยกันท่าไม่ชอบผู้แสดงนำชายซะมากกว่า ซึ่งตัวพระเอก Ed Skrein เองเล่นล้ำหน้าแล้วในบทนี้ด้วย แต่อารมณ์มันกลับส่งไม่ถึงกันกับบทเด็กออทิสติกส์ในประเด็นนี้นัก

และก็เพราะเหตุว่าเป็นผู้กำกับเรื่องแรกจากหนังสั้นของตัวเอง ก็เช่นเดียวกันกับได้โอกาสอยากได้ใส่อะไรก็ใส่มาเยอะจนกระทั่งทำให้เรื่องหลายตอนมองดูไม่สำคัญ เวลารวมของเรื่องเกือบจะสองชั่วโมงที่มีจุดพีคบางเบาด้วยทำให้มองดูยืดๆมากมายก่ายกอง ถึงแม้ว่าระหว่างที่ดูราวกับว่าไม่ถึงขั้นเบื่อ แต่เรื่องก็คงกระชับให้สั้นมากกว่านี้ก็จะดีขึ้น

i used to be famous netflix

รีวิวหนัง “PAW Patrol กรรมวิธีน้องหมาสี่ขา เดอะ ไมตี้ มูฟวี่” ถึงซ้ำๆซากๆ แต่ว่าก็โอเคนะ

ยังคงสร้างรอยยิ้มแล้วก็ความอิ่มเอมจิตใจให้กับคุณผู้ชมทุกวัยได้อยู่ตลอด love-move สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชัน “PAW Patrol: The Mighty Movie ขั้นตอนน้องหมาสี่ขา เดอะ ไมตี้ มูฟวี่” ด้วยการกลับมาพร้อมความเพลิดเพลินกันแบบจุกๆผสมความแอ็คชัน เสี่ยงอันตราย รวมทั้งความแปลกใหม่ในรายละเอียดแฟนาตาซีได้อย่างดีเยี่ยม มีทั้งยังชวนตลก รวมทั้งซึ้ง ผสมแง่คิดที่ตามมาตรฐานของตนไว้เหมือนปกติ เจาะกรุ๊ปเด็กและก็ครอบครัวได้อย่างงดงาม

เล่าราวเมื่ออุกกาบาตเวทมนตร์คาถาตกลงใส่แอดเวนพบร์ สิตี้ ก็ทำให้เหล่าหมาเที่ยวตรวจมีพลังพิเศษขึ้นมา สำหรับสมาชิกตัวเล็กจิ๋วที่สุดของกลุ่มอย่าง สกาย พลังพิเศษพวกนี้ราวกับฝันที่เป็นจริง แม้กระนั้นทุกสิ่งทุกอย่างกลับกันเมื่อคู่กรณีชั่วนิจนิรันดร์ของเหล่าหมาเที่ยวตรวจอย่าง ฮัมดิงเกอร์ หนีออกจากคุกออกมาร่วมกลุ่มกับ วิคตอเรีย แวนซ์ นักวิทยาศาสตร์ผู้หลงใหลในอุกกาบาต เพื่อจะลักขโมยพลังพิเศษรวมทั้งสลับตัวเองให้เปลี่ยนเป็นยอดเยี่ยมคนร้าย

การกลับมาในคราวนี้มีรายละเอียดที่ผสมความแฟนตาซีเข้ามาได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการนำอุกกาบาตเวทมนตร์คาถามาปูเรื่องราวให้เหล่าหมานั้นได้รับพลังดีเลิศ รวมทั้งหนักแน่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในคราวนี้หมาตัวหลักหมายถึงสกาย สมาชิกตัวจิ๋วที่ขาดความเชื่อมั่น ด้วยรูปร่างที่เล็กมากยิ่งกว่าสมาชิกในกลุ่มซึ่งเป็นเงื่อนของนักแสดงที่ตกแต่งเสริมการให้แง่คิดในความเชื่อมั่นในตนเองได้อย่างดีเยี่ยม

สำหรับในการเดินเรื่องออกจะย่อยง่าย เล่ารายละเอียดอย่างไม่อ้อมค้อมไม่สลับซับซ้อน แม้กระนั้นก็ออกจะทำให้แผนภูมิเส้นเรื่องเรียบไปพอเหมาะพอควร ด้วยเหตุว่าไม่มีฉากที่ทำให้พวกเรารู้สึกว้าว หรือถึงจุดไคลแมกซ์เท่าไรนัก ทั้งยังแก่นการเล่าภูมิหลังผู้แสดงยังสร้างออกมาให้มองเห็นถึงความจำเจของตัวบทที่คุณผู้ชมบางครั้งก็อาจจะเคยสัมผัสกันมาบางแล้ว เนื่องจากว่าชี้ให้เห็นถึงข้อเสียของตัวเองที่ฝังใจและไม่สามารถก้าวผ่านมันไปได้ i used to be famous netflix แม้กระนั้นเมื่อมีอุกกาบาตเวทมนตร์คาถามาเพิ่มพลังพิเศษเป็นเสมือนสิ่งเติมเต็ม

แต่สีสันของเรื่องยังคงได้รับการเติมเต็มจากผู้แสดง วิคตอเรีย แวนซ์ นักวิทยาศาสตร์ผู้หลงใหลในอุกกาบาต ที่มาก่อปัญหาให้กับเหล่าหมาจำต้องปกป้องกันบ่อยครั้งหลายครา หากว่าตัวบททั้งหมดทุกอย่างจะดูราวกับว่าจับวางไปหมดก็ตาม ทั้งความแฟนตาซีที่ใส่เข้ามาในพลังพิเศษกลับมิได้โชว์ให้พวกเราได้สัมผัสอย่างจับใจเยอะแค่ไหน ดูกระชั้นชิตสำหรับการทำภารกิจไปหน่อย แม้ว่าให้ร้ายแฟนตาซีมาแล้วแท้ๆแม้กระนั้นพลังของเหล่าหมากลับมิได้สาดให้สุด

ถึงแบบนั้นการติดต่อสื่อสารแก่นของผู้แสดง สกาย อาจจะส่งผลให้คนอีกหลายๆคนรู้สึกแล้วก็อินไปพร้อม ด้วยเหตุว่าใช้ถ้อยคำ แล้วก็สิ่งที่เป็นรูปธรรมให้มองเห็นถึงความบากบั่นของตัวเองที่ถึงแม้รูปร่างเล็กแต่ว่าก็พากเพียรไม่น้อย จนถึงทำให้ได้รับการยินยอมรับจากไรเดอร์และก็สมาชิกในกลุ่ม แน่ๆว่าบอกมาขนาดนี้ หนังในภาคนี้เล่ารายละเอียดของเพื่อนเป็นหลัก กระทั่งทำให้หมาตัวอื่นๆเกือบจะจางไปเลย

My Review

Review Form...

Reviews

Loading Reviews...
0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments